ในการสร้างพระผงของเจ้าประคุณสมเด็จฯ จะตำด้วยครก ให้ปูนขาวและวัสดุต่างๆ คลุกเคล้าเข้าด้วยกันตามสูตรส่วนผสมเนื้อพระ สมัยก่อนไม่ได้ใช้เครื่องตวงวัด แต่จะใช้วิธีคาดคะเน และทดลองผสมดูหลายๆ ครั้ง แต่ละครกส่วนผสม จะไม่เหมือนกัน บางครกส่วนผสมปูนมาก บางครกใส่ส่วนผสมปูนน้อย เนื้อกล้วยมาก ทำให้มีสีต่างกัน เนื้อพระไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดเนื้อละเอียดและเนื้อหยาบ
ในการปลุกเสกพระสมเด็จวัดระฆัง มีตำราหลายเล่มให้ข้อมูลตรงกันว่า เจ้าประคุณสมเด็จฯ ปลุกเสกเอง โดยทำไปปลุกเสกไป แจกไป โดยเฉพาะการปลุกเสกของท่านจะอัญเชิญ “ท่านท้าวมหาพรหมชินบัญชร” ซึ่งเป็นพระอรหันต์ของท่านร่วมพิธีด้วย จึงเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ และความขลัง คนโบราณจะมีวิธีปลุกเสกพระ โดยจะทำพิธีในโบสถ์ มีประรำซุ้มต้นไม้มงคล ดอกไม้มงคลล้อมรอบวัตถุมงคล โยงด้วยด้ายสาญสินจน์จากพระประธานในโบสถ์มายังพระเครื่องที่เข้าพิธี และโยงด้ายสาญสินจน์ไปยังพระผู้ทรงคุณมีญาณแก่กล้านั่งสมาธิส่งพลังจิตบริสุทธิ์ไปยังพระเครื่อง ก่อนจะทำพิธีปลุกเสก จะทำพิธีอัญเชิญเทพไท้เทวา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาร่วมพิธีปลุกเสก โดยนำผลไม้คาวหวานขนมนมเนย บายศรีเครื่องสูง เป็นเครื่องเซ่นสังเวย หลังจากประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้ว พระสงฆ์ผู้ทรงคุณจะจุดเทียนชัย พระสงฆ์สวดและพระอาจารย์ผู้มีญาณแก่กล้าจะนั่งปลุกเสก จนเสร็จพิธี
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง เจ้าประคุณใช้ปูนขาว เป็นส่วนผสมหลัก และมีวัสดุต่างๆ อันเป็นมวลสาร ตำด้วยครกคลุกเคล้าด้วยกัน หากเราเอาแว่นส่องพระส่องดูพระสมเด็จวัดระฆังทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จะเห็นมวลสารต่างๆ เช่น เม็ดแดง จากผงเก่าบด คือ พระซุ้มกอ มองเห็นแร่หิน สีขาว สีขาวขุ่น สีเทาอ่อน เล็กบ้างใหญ่บ้าง มีเม็ดสีขาวอมเหลือง เรียกว่า“เม็ดพระธาตุ” มีแร่ทรายเงิน ทรายทอง ระยิบระยับบนเนื้อพระ ถ้าใช้ความสังเกตสูงจะเห็นเม็ดกลมเล็กๆ ผุดออกจากเนื้อพระ สีขาว สีชมพู ตามสีของเนื้อพระ ที่เรียกกันว่า “เนื้องอก”
คำว่า “เนื้องอก” ในพระสมเด็จวัดระฆัง คุณพ่อได้เล่าให้ฟังว่า ได้ความรู้มาจากเพื่อนคนหนึ่งซึ่งทำงานเป็นนักข่าว เมื่อประมาณปีพ.ศ. 2534 ได้บอกว่า ให้สังเกตพระสมเด็จวัดระฆังองค์นี้ให้ดี จะมีเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นบนเนื้อพระ ซึ่งบอกว่าพระสมเด็จวัดระฆังแท้จะมีให้เห็นทุกองค์ ขณะนั้นเรียกว่า “เนื้อผุด”
ข้อเขียนของคุณ เสฏฐ์ เสกสรรค์ ในหนังสือ “สมเด็จพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี ของดีที่คนมองข้าม” จึงขออนุญาต อ้างอิงข้อเขียนบางตอนเกี่ยวกับ “การงอก” ของพระสมเด็จวัดระฆัง ว่า “เกิดการงอก เช่นเดียวกับพระวัดพลับ ที่สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) พระอาจารย์ของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) ได้สร้างขึ้น สาเหตุที่เกิด “การงอก” ในพระวัดพลับและพระสมเด็จวัดระฆัง เกิดจากการผสมผงธาตุสิวลี เข้าไปด้วย และผงธาตุสิวลีจะทำให้เกิดการขยายตัวหรืองอกได้ แต่เป็นไปอย่างช้าๆ ประกอบกับพระสมเด็จวัดระฆัง มีอายุการสร้างร้อยกว่าปี การงอกจึงปรากฎขึ้น “
ด้วยเหตุผลและความจริงที่พิสูจน์ได้ จึงเชื่อได้ว่า พระสมเด็จวัดระฆังแท้ เนื้อเก่าถึงยุค จะมี “เนื้องอก” เกิดขึ้นทุกองค์ บางองค์ที่มีมวลสารเป็นเม็ดพระธาตุองค์จริง จะปรากฎ “เม็ดพระธาตุงอก” ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งลักษณะดังกล่าว ค่อนข้างจะหายากมาก
พระธาตุสิวลี เป็นของหายากยิ่ง มีลักษณะคล้ายเมล็ดมะละกอ เมล็ดในพุทรามีสีเหลืองแก่ เหลืองอ่อน จะพบในผนังถ้ำลึก เช่น ถ้ำพระธาตุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และผงพระธาตุสิวลีจะงอกให้เห็นถ้าเก็บไว้ในภาชนะ
“การงอก” ของพระสมเด็จวัดระฆัง เกิดจากการใส่ “ผงวิเศษ” หรือ “ผงพระธาตุสิวลี” นั่นเอง
นอกจากการงอกในเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังแล้ว หากส่องกล้องขยายดู พระสมเด็จวัดระฆังบางองค์ จะมองเห็นเม็ดสีขาว เป็นเม็ดแข็งที่เรียกว่า "เม็ดพระธาตุองค์จริง" ผสมอยู่
ถ้าสังเกตให้ดีบนเม็ดสีขาวใสดังกล่าว จะมีเม็ดกลมใสเล็กๆ ผุดขึ้นมา อย่างน้อย 2-3 เม็ด จะเรียกว่า “เม็ดพระธาตุองค์จริงงอก” ก็ได้
ด้วยเหตุผลและความจริงที่พิสูจน์ได้ จึงเชื่อได้ว่า พระสมเด็จวัดระฆังแท้ เนื้อเก่าถึงยุค จะมี “เนื้องอก” เกิดขึ้นทุกองค์ บางองค์ที่มีมวลสารเป็นเม็ดพระธาตุองค์จริง จะปรากฎ “เม็ดพระธาตุงอก” ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งลักษณะดังกล่าว ค่อนข้างจะหายากมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น