อันดับแรกของการศึกษา ค้นคว้าหาอ่านประวัติของท่านสมเด็จโตและการสร้างพระสมเด็จ และตามมาด้วยหาพระองค์ครูเพื่อเป็นองค์พระต้นแบบ แต่พระที่ได้มา คือ
พระสมเด็จองค์ครู องค์ที่ 1
1.พระเนื้อปูนใหม่ พระปลอม พระเรซิ่น และพระทำเลียนแบบ ล้วนมีประโยชน์ต่อตนเอง เพราะได้นำพระเหล่านั้น มาทดลอง ทางกายภาพของพระเหล่านั้น เช่น หักเพื่อดูเนื้อพระ ใช้ความร้อนลน เพื่อตรวจสอบ เนื้อพระ ต้มเพื่อให้สิ่งที่เกาะเนื้อพระหลุดออก ล้าง ขัด เพื่อต้องการดูเนื้อพระที่แท้จริง ฯลฯ ถือเป็นพระองค์ครู องค์แรก เพราะกว่าจะเข้าใจ ต้องค้นคว้า หาที่มาและรายละเอียด ต่างๆ ....ตามพระองค์ครู องค์ต่อไป..
พระสมเด็จองค์ครู องค์ที่ 2
2.พระสมเด็จเนื้อปูน เปลือกหอย เป็นพระสมเด็จที่มี นน.เบา และบาง >พระสมเด็จ องค์ครูชุดแรกผ่านไป ทำให้ประสบการณ์ รู้ถึงการดูพระสมเด็จด้วยภาพและตาเปล่าได้ดีขึ้น จึงเลือกหาดูเนื้อพระที่มีความเก่าเป็นลำดับแรก แต่พระเนื้อแบบนี้แต่ก่อนนี้ทำปลอมเลียนแบบด้วยเรซิ่นเป็นจำนวนมาก จึงเอาพระสมเด็จที่ได้มาตรวจสอบด้วยการล้างคราบเก่า ด้วยน้ำอุ่น เมื่อล้างคราบความเก่าออก จะมีคราบของแคลไซต์ หรือคราบของน้ำปูนดิบ ที่มีอายุความเก่าไม่มาก เป็นฝ้าสีขาวขึ้นมากเกาะบนผิวเนื้อพระ แต่พระชุดนี้ เซียนตีเป็นพระเก๊ และไม่เป็นที่นิยม ถึงแม้จะมีอายุความเก่ามากก็ตาม ***เก็บสะสมเพื่อบูชา เพราะมั่นใจ ว่าเป็นพระแท้***
พระองค์ครู องค์ที่ 2 ที่ไม่ใช่ ในแบบที่ตามหาเช่นเคย.....ตามหาพระองค์ครู ต่อไป
3.พระสมเด็จเก่าแท้ทันยุค คือพระที่สมเด็จโต ท่านสร้างด้วยตนเอง ต้องมีความเก่า มีอายุ 145 ปี ขึ้นไป(มรณภาพ 2415) จากประสบการณ์การเลือกหาพระเก่าแบบที่ได้มาที่เป็นองค์ครู องค์ที่ 2 แต่เมื่อยังไม่ใช่ จะต้องศึกษา เรื่องความเก่าของเนื้อพระ มวลสารที่สร้างเป็นอย่างไรในองค์เนื้อพระเก่า ยังใช้วิธีเช่นเดิม แต่เพิ่มการค้นคว้า เลือกพระมีคราบกรุที่เกาะองค์ฺพระ คราบความเก่าเกาะที่องค์พระ และเริ่มต้นศึกษาและหาคำตอบว่าผงวิเศษ ของท่านสมเด็จโต เป็นอย่างไรเมื่ออยู่ในองค์เนื้อพระเก่า แต่เรื่องนี้กลับหาคำตอบยืนยันไม่ได้ มีเพียงเรื่องการงอกของเนื้อพระในองค์พระสมเด็จโต
การได้พระสมเด็จมายังใช้การล้างเนื้อพระด้วยน้ำอุ่น และพระบางองค์ที่มี การลงรักปิดทอง ใช้น้ำมันจุดไฟแช็ค รอนสัน มาเป็นตัวล้างเนื้อพระ มีการแช่พระสมเด็จเอาไว้ในน้ำเป็นเวลานานๆทำให้ล้างคราบได้ง่ายและเห็นเนื้อองค์พระแท้ ที่ไม่มีสิ่งใดเกาะปิดผิวเนื้อพระอยู่ การล้างพระสมเด็จด้วยน้ำอุ่น เป็นวิธีที่ถูกที่ไม่ทำให้เนื้อพระเสียไป ่นอกจากนั้น ยังทำให้มีการเปลี่ยนแปลงขององค์พระ มีการงอกเกิดขึ้นในองค์พระสมเด็จด้วย ส่วนการใช้วิธีอื่นๆนั้นทำให้เนื้อพระสมเด็จเสีย หัก ชำรุด เช่น การขูด ต้ม การล้างด้วยน้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น
ในครั้งนี้ พบพระสมเด็จองค์ครู องค์ที่ 3 ที่มีเนื้อมวลสารมากมายหลายอย่าง และที่แปลกคือมีกลิ่นหอม ค้นคว้าหาความรู้อยู่เป็นเวลานาน เพราะเป็นพระที่หายาก ตั้งแต่เริ่มต้นศึกษา พบเป็นองค์แรก เป็นพระที่มีคราบเขม่าความเก่าปิดเนื้อพระอยู่ ล้างน้ำอุ่นแล้วจึงเห็นเนื้อมวลสารชัดเจน เป็นที่มาของการหาคำตอบ "ผงวิเศษ" ในองค์เนื้อพระสมเด็จ
พระสมเด็จ องค์ครู องค์ที่3 พระสมเด็จ เนื้อว่านมงคล ๑๐๘
พระสมเด็จองค์ครู องค์ที่ 3 กลับไม่ใช่ พระสมเด็จในแบบที่ใช่ เช่นเดิม อาจเพราะหายาก และไม่มีผู้ที่สนใจศึกษา หามาสะสมและครอบครอง....ตามหาพระสมเด็จองค์ครู ต่อไป
พระสมเด็จองค์ครู องค์ที่ 4
เกิดความสงสัย ในเรื่องพระสมเด็จที่แช่น้ำในกรุ และพระสมเด็จที่แช่น้ำมนต์ แตกต่างกันอย่างไร เนื้อผิวพระสมเด็จต่างกันอย่างไร เมื้อเห็นพระสมเด็จองครู องค์ที่ 4 จึงนำมาล้างน้ำอุ่น เพราะคิดว่าพระองค์นี้เคยผ่านการแช่น้ำมนต์มาก่อน ทำให้การเกิดคราบของน้ำปูนดิบที่มาเกาะเนื้อผิวพระสมเด็จ ยังไม่มากและเกาะกันแน่นมากนัก เห็นมีเป็นขุยเกาะที่ผิวพระ
การล้างคราบที่เกาะผิวเนื้อพระ คราบที่เกาะผิวเนื้อพระ จะละลายน้ำออกไปทีละน้อย จนเห็นเนื้อพระชัดเจน แกร่งดั่งหิน แต่หลังจากที่ล้างแล้วนำมาผึ่งแดด เกิดการงอกขึ้นมาบนผิวเนื้อพระและมีเม็ดมวลสารเกิดขึ้นมาให้เห็นชัดเจนจำนวนมาก ..พระแท้เก่าเท่านั้น ถึงจะเกิดแบบนี้ได้
ไม่มีเซียนยืนยัน ว่าเป็นพระแท้ทันยุค แต่ก็ไม่ได้บอกว่า "ไม่ใช่" เพราะเนื้อมวลสาร ที่มองด้วยตาเปล่า พระปลอม พระทำเลียนแบบ หรือพระใหม่ ทำให้เป็นแบบที่เห็นไม่ได้...ตามหาพระสมเด็จองค์ครู ต่อไป
พระสมเด็จองค์ครู องค์ที่ 5
เมื่อยังไม่ได้คำตอบกระจ่างว่า พระแท้ทันยุค ในแบบเซียนนั้นเป็นอย่างไร การค้นคว้าหาความรู้เพื่อตรวจสอบเนื้อพระสมเด็จทันยุค ในแบบที่เซียนชี้ว่าใช่ ขบวนการตรวจสอบที่มีการแนะนำเอาไว้แบบทั้งที่ถูกและผิด เพราะไม่สามารถให้คำตอบที่แท้จริงได้ ในการตรวจสอบอายุของพระสมเด็จด้วยน้ำขมิ้น และการใช้กรดที่อ้างว่าเป็นทางวิทยาศาสตร์ ทั้งสองวิธี ไม่ได้ชี้วัดแน่นอนถึงคำว่าเป็นพระแท้ทันยุค ได้เลย แต่เมื่อเป็นความเชื่อของคนบางคน ไม่ขอแสดงความเห็นหลบหลู่ แต่การเอาหลักทางวิทยาศาสตร์ มาใช้ตรวจสอบ ต้องพิสูจน์ได้ทางสารเคมี ที่แสดงผลนั้นๆมาอธิบายได้อย่างชัดเจน อย่าเอาแค่คำบอกเล่ามาบวกกับหลักทางวิทยาศาสตร์ มาใช้พิสูจน์ ถึงแม้ตนเองจะไม่เชื่อก็ยังทดลองดูผลการทดสอบ แต่ไม่สามารถชี้ชัดว่าเป็น พระแท้ทันยุค ..
การล้างพระน้ำอุ่น และ นำกรดอ่อนๆมาหยดในเนื้อพระ จึงได้พระสมเด็จองค์ครู องค์ที่ 5 ที่เซียนบางท่านบอกว่า พระแท้ทันยุค พระสมเด็จองค์นี้ เป็นพระสมเด็จองค์บาง เมื่อล้างน้ำอุ่นเอาคราบเก่าที่เกาะเนื้อพระออกหมด นำขึ้นมาผึ่งลมเอาไว้ ปรากฏเกิดการสร้างเนื้อพระขึ้นมาใหม่ ในเวลาอันสั้น จึงเป็นข้อสังเกตุได้อีกอย่างว่าเนื้อพระสมเด็จแบบไหนที่มีความเก่ามาก หรือเก่าทันยุค ในแบบของเซียนกำหนด
การตามหาพระสมเด็จองค์ครู ให้คำตอบ ในข้อสงสัยต่างๆ ที่มีมาตั้งแต่เริ่มต้นศึกษา เป็นเวลานาน 7 เดือน ...แต่หาใช่พระสมเด็จทันยุค ในแบบที่เซียนใหญ่กำหนด ..แต่สามารถแก้ความสงสัยของผมได้ เป็นอย่างดี
✨✨✨จึงขอตั้งคำถามเอาไว้ ให้เซียนใหญ่ และกลุ่มที่กำหนดว่าเป็นมาตราฐานสากล ว่าพระสมเด็จ
1. พระสมเด็จแท้ทันยุค ต้องมีผงวิเศษ ในองค์พระสมเด็จ หรือไม่ เพราะอะไร
2.ถ้าต้องมีในองค์พระสมเด็จทุกองค์ ผงวิเศษ ในองค์พระสมเด็จทันยุคเป็นอย่างไร แสดงภาพให้เห็นชัดเจนและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
แต่ถ้าท่านตอบมาว่าไม่จำเป็นต้องมี ดังนั้นการแสวงหาพุทธคุณในองค์พระสมเด็จ แท้ทันยุค จึงไม่จำเป็นต้องมี จะะเป็นความเชื่อ อีกแบบ ของนักสะสมและบูชา พระสมเด็จ ของท่านสมเด็จพุฒาจาย์ (โต พรหมรังสี)
หรือพระสมเด็จต้องมี จุดกำหนด หรือตำหนิ แบบพิมพ์ เนื้อพระที่ท่านบอกว่า จึงเป็น
" เนื้อใช่ แบบใช่ คือพระแท้ทันยุค"
ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริต ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา...
ขอพระคาถาชินบัญชรปริตร จงรักษาข้าพเจ้าและทุกท่านตลอดกาลทุกเมื่อ
...ขอความสุขสวัสดิ์จงมีแด่ทุกท่าน....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น