วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การพิจารณาผิวพระลักษณะต่างๆ ของพระสมเด็จ

การพิจาณาพระสมเด็จที่อธิษฐานจิตปลุกเสก โดยสมเด็จโต

นอกจากพิมพ์พระที่ถือว่าสำคัญแล้ว ผิวของพระก็สามารถนำมาช่วยในการพิจารณาที่มาที่ไปได้ เพราะปัจจุบันนี้ หลายท่านที่อ่านตำราว่า พระสมเด็จต้องเนื้อหนึกนุ่มนั้น อาจพลาดการดูพระลักษณะอื่น และสามารถนำไปสันนิษฐานการเสด็จมาของพระได้ว่า มีความเป็นไปได้เพียงใด เพราะปัจจุบันนี้ มีการสร้างพระสมเด็จใหม่ๆขึ้นมา ซึ่งข้าพเจ้าไม่ขอใช้คำว่าเก๊ เพราะพระก็คือพระ หากใครนำไปปลุกเสกให้มีพุทธคุณเพื่อร่วมบุญก็ขอโมทนา แต่หากเจตนาเพื่อหากินกับความเชื่อ อันนี้ถือว่าทำกรรมต่อพระรัตนตรัย ถือเป็นบาปกรรมที่หนักที่สุด ก็ขอให้พิจารณา ...

1. พระกรุ เป็นพระที่สร้างขึ้นมา ปลุกเสกพิธีธรรมโดยมีสมเด็จโตร่วมปลุกเสก และนำไปบรรจุเก็บกรุ ซึ่งพบเจอในพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม สภาพพื้นผิวจะมีคราบกรุเกาะแน่น มากน้อยแตกต่างกันไป


2. พระไม่ได้ใช้ ไม่ได้ล้าง แบบนี้ถือเป็นพระที่หายากที่สุด เพราะเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง ที่สร้างแล้วแจกจ่าย ซึ่งผู้ที่รับเก็บรักษาไว้อย่างดี ไม่ได้ใช้ ลักษณะพื้นผิวจะเกิดการงอกของปูนเปลือกหอย องค์พระดูหนาไม่สึกกร่อน ซึ่งพระแบบนี้ผู้ที่เล่นพระระดับบน (บินสูง) ต้องการมาก เพราะถือเป็นพระที่ใหม่แกะกล่องไม่ได้ใช้งาน พุทธคุณเต็มร้อย


3. พระใช้ ไม่ได้ล้าง แบบนี้ถือเป็นพระเนื้อหนึกนุ่ม แต่มีคราบไคลเหงื่อ สิ่งปกคลุมตามร่องผิว หากล้างออกมาก็จะสวย เผยให้เห็นเนื้อหนึกนุ่ม


4. พระล้าง ไม่ได้ใช้ แบบนี้ถือเป็นพระที่สวย และมีราคาซื้อขายกันสูง เพราะมีการล้างเพื่อดูรายละเอียด อีกทั้งพุทธคุณยังเต็มร้อย สามารถใช้งานได้อีกยาวนาน


5. พระใช้ เนื้อหนึกนุ่ม ถือเป็นลักษณะผิวในอุดมคติ ซึ่งดูง่ายผ่านการใช้งานมายาวนาน จนผิวเงามันดูซึ้งตา ซึ่งหากพิจารณาที่มาที่ไปแล้ว การพบเจอพระพิมพ์เดียวกันเรียงกันเป็นตับ ซ้อนกันอย่างดี พิมพ์เดียวกัน เนื้อเดียวกัน ... นั่นแปลว่า เจ้าของคล้องทีละเป็นสิบเป็นร้อยองค์ หรือ อีกกรณีท่านมาประชุมธรรมกันโดยมิได้นัดหมาย ... หากพิจารณา ถึงเหตุ ก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก ... แต่ถ้าเจอเนื้อแบบ 1 และ 2 มาพร้อมกันหลายองค์ อันนี้ค่อยน่าลุ้นหน่อยครับ


6. พระใช้จนสึกกร่อน ... แนวนี้เป็นพระที่เซียนชอบ ยิ่งแตกหัก บิ่นร่อน ดูเก่าแท้พันตา เพราะกว่าจะใช้งานจนขอบมุมสึกได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าท่านคงมีบารมีมาไม่น้อย



ดังนั้นจากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า พระสมเด็จไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในตำรา และพิมพ์ตำหนิ นี่ยังไม่ยกพระสกุลวังอีกมากมายขึ้นมาให้พิจารณานะครับ แต่สิ่งสำคัญ ในการพบเจอของแท้ของจริงที่ควรรู้เป็นอันดับแรกคือ ... พระสมเด็จของแท้ที่อธิษฐานจิตปลุกเสกโดยสมเด็จโต นั้น มีพุทธคุณ และเทวดา รักษาอยู่ รอคอยวันที่พบเจอผู้ที่คู่ควร เสมือนของดีมีค่าที่มิอาจตกสู่ที่ต่ำได้ ซึ่งคำว่าพุทธคุณ ย่อมสามารถเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจผู้ที่ได้ครอบครองให้เกิดดวงตาเห็นธรรมได้ ดังนั้นการตามหา หากบุคคลผู้นั้นไม่ได้ประกอบไปด้วย บุญบารมี เสียแล้ว แม้มีของแท้กองอยู่ตรงหน้า ก็มองไม่เห็น หรือหากได้ครอบครองแล้วไม่ได้บูชาธรรม สมเด็จนั้นก็มิอาจคงอยู่ได้นาน หรือคล้องสวมใส่ได้ ... จะมีเหตุให้ต้องถอดออกตลอดเวลา

เหตุเพราะการอธิษฐานจิตปลุกเสกของสมเด็จโตนั้น ตั้งต้นด้วยธาตุไฟ ซึ่งจะช่วยเผาผลาญกิเลส ขับไล่อวิชชาที่มืดบอด ละทิ้งซึ่งกิเลสในทางต่ำ เสริมญาณเสริมบารมีในทางธรรม มีจุดหมายเพื่อให้ผู้ครอบครองเกิดปัญญาบารมี และมีอำนาจ

ดังนั้นผู้ที่ได้ครอบครองแล้วก็ควรนำมาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน นั่นคือเป็นไปในทาง ธรรม และเกิดปัญญา หาใช่ก่อให้เกิดกิเลสอยากได้อยากมีไม่สิ้นสุด หรือติดในมูลค่าที่สมมุติขึ้นจนหลงทางมัวแต่เสียเวลาพร่ำเพ้อขาดสติ ... ผู้ที่ได้ครอบครองสมเด็จของแท้นั้น จะต้องเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจให้เกิดไปในทางกุศลจิต น้อมนำตัวเองให้เข้าหาธรรม นั่นคือพลังที่แท้จริงของ " พุทธคุณ " เมื่อครอบครองแล้วก่อให้เกิดผลเช่นนี้แล้ว ...จึงถือได้ว่าเป็นผู้ที่ถึง " สมเด็จ " โดยแท้จริง ... _/\_

ขอขอบคุณ ที่มา :http://www.lucky4u.org/article/122

ไม่มีความคิดเห็น: